ในภาพ อาจารย์สิริวารี รำเพย และเครือข่าย เชิญชวนเพื่อน ๆ DBD P-Trader 1 และคณะ ร่วมเปิดโลกทัศน์อาเชียน บนเส้นทาง R 12 (ไทย ลาว เวียดนาม)โดยมี ดร.ปริวรรต สาคร (วิทยากร) เป็นการ Matching และร่วมรับประทานอาหารระหว่างผู้ประกอบการไทย-ลาว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว สรุปผลการดำเนินงาน
"เราจะเรียนรู้ และ จับมือก้าวผ่านสถานะการณ์ความยุ่งยาก และท้าทายไปด้วยกันค่ะ"
สถานะการณ์เลวร้ายสร้างผู้กล้า เช่นกันในช่วงเวลายุ่งยาก เป็นความท้าท้ายประชาชนภายในประเทศไทยเรา ดิฉันและเพื่อน ๆ ในนามเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเทียวทั้งภายในประเทศ ในอาเชียนและทั่วโลก รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานการท่องเทียวและเกี่ยวเนื่อง
เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการ การท่องเทียวและเกี่ยวเนื่อง กับทุกท่าน ทุกองค์กร ทั้งภายในประเทศ(ไทย) และต่างประเทศ(อาเชียนและอื่นๆ) ทำงานเป็นทีม เป็นกระบวนการ โดยมุ่งหวังความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ เราพร้อมค่ะ.
สังคมไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคอาเซียนภิวัตน์ (Aseanization) ภายใต้บริบทความร่วมมือของกรอบประชาคมอาเซียน (Asean Community) โดยเฉพาะเสาหลักประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community, AEC) อันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดต่อสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคอาเซียนให้เป็น “ทุนนิยมภายใต้โลกาภิวัตน์” ภายใต้การชี้นำและยึดกุมบริบทโดย “จีน”
โครงการพัฒนาเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Sub-Region, GMS) และ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) จะส่งผลให้ กลุ่มประเทศ CLMV + T + South China (มณฑลยูนนานและเขตปกครองตนเองกวางสี-จ้วง) เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ถนนและทางรถไฟ การสื่อสาร-โทรคมนาคม การเกิดขึ้นของระเบียงเศรษฐกิจตามถนนสายหลัก ฯลฯ ผนวกด้วย เงื่อนไขการค้า-การลงทุนที่เปิดกว้าง อานิสงฆ์ของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เป็นการพลิกโฉมหน้าของภูมิภาคอาเซียน ที่จะเป็นการสร้างความหวังและโอกาสให้กับนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และมีความพร้อม เข้าถึงโอกาสและลู่ทางการเข้าสู่ตลาดของธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธุรกิจทางด้านสาธารณูปโภค,ธุรกิจลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมเครื่องยนต์,,ธุรกิจอาหารแปรรูป ,การท่องเทียวในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน และอื่น ๆ
เส้นทางการคมนาคม ทั้งทางบก เรือ และอากาศ จะเพิ่มขึ้นและเปลียนล้มตามสภาพการณ์ต่าง ๆ เช่น เส้นทาง R12 ที่เชื่อมโยง 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม เป็นระยะทางที่ใกล้ที่สุดเพียง 331 กิโลเมตร (สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม – เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว – เมืองดงเหย จ.กวางบินห์ เวียดนาม) และเชื่อมโยงไปถึงกว่างสีของจีนอีกเพียง 500 กิโลเมตร เป็นถนนสายเศรษฐกิจที่เปิดกว้างสำหรับสำหรับ การขนส่ง การค้า-การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นโจทย์สำคัญที่นักธุรกิจไทยต้องทำการศึกษา (1) สภาพการณ์ปัจจุบัน และ (2) การคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ในอนาคต ถึงประเด็น โอกาสทางธุรกิจ และ ปัญหา-อุปสรรค สำหรับ การขนส่ง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การหาแหล่งวัตถุดิบ-ทรัพยากร การประเมินตลาด การวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจที่ท่านประกอบการว่าเชื่อมโยงกับเส้นทางเศรษฐกิจสายนี้อย่างไร ฯลฯ รวมทั้ง (3) การสานสายสัมพันธ์เพื่อแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้า เป็นต้น
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของอาเซียนอยู่ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว หากท่านต้องการที่จะเปิดเกมรุกทางธุรกิจเข้าหาตลาดอาเซียน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องประเมินสภาวการณ์ต่างๆที่เป็นจริง ณ ปัจจุบัน ด้วยตัวของท่านเอง อันจะเป็นการเปิดเกมรุกเข้าหาโอกาสทางธุรกิจที่มาพร้อมกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม เราไปเปิดโลกทัศน์อาเชียน เพื่ออะไรกันบ้างละค่ะ เมื่อเราก้าวออกจากห้องทำงาน เพื่อ…..
2.1) เพื่อเปิดโลกทัศน์ของพวกเรา ที่เป็นนักธุรกิจและผู้เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจที่มาพร้อมกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน บนเส้นทาง R12 และอื่น ๆ
2.2) เพื่อแสวงหาพันธมิตรและคู่ค่าทางธุรกิจ
2.3) เพื่อสานสายสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนนักธุรกิจในนครพนม ลาว และ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ
แล้วเมื่อไปแล้วคาดว่าจะได้รับอะไรกันบ้าง….
3.1) โลกทัศน์ที่เปิดกว้างยิ่งขึ้นของนักธุรกิจไทยต่อ AEC โดยเฉพาะต่อตลาดลาวและเวียดนาม บนเส้นทาง R12 และอื่น ๆ
3.2) ท่านจะได้พันธมิตร / คู่ค้าทางธุรกิจ
เราจะไปที่ไหน ทำอะไรกันบ้าง กติกาเป็นอย่างไรบ้าง?
การรวมตัวของ ASEAN จะล้มเหลว หรือสำเร็จ เพื่อไปสู่ พิมพ์เขียว ที่กำหนดไว้ได้หรือไม? สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ละเลย คือ เส้นทางการคมนาคม ที่จะนำพาให้เรา เพื่อร่วมมือกัน ระหว่างพี่น้องเพื่อนบ้าน สมาชิกของอาเชียนให้สะดวกรวดเร็ว ทั้งการค้าการขาย และส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสรรพสิ่ง อำนวยความสะดวกในการลงทุน ในทุกด้าน ๆ และอดไม่ได้ ที่เราจะพูดเส้นทาง 3 เส้นทางที่ก่อเกิดและใช้งานระยะหนึ่ง และ 3 เส้นทางนี้จะเชื่อมเป็นหนึ่งเดียว กับมหาอำนาจใหม่ คือ จีน
ดิฉันขอนำเสนอ เส้นทางเพื่อร่วมกันเปิดโลกทัศน์ด้วยกัน คือ เส้นทาง R12 เชื่อม ไทย(นครพนม) ลาว เวียดนาม,เส้นทาง R3 A เชื่อมไทย(หนองคาย)ลาว จีน และเส้นทาง R3B เชื่อม ไทย พม่า จีน
และเส้นทางที่จะเชื่อมให้ CLMVT เป็นหนึ่งเดียว จะก่อให้เกิดผลที่ตามมามากมาย ...เส้นทางยุทธศาสตร์ทางการค้าสายใหม่ GMS R3A จะสร้างประโยชน์ให้กับทุกประเทศในกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป้าหมายหลักของการร่วมมือกัน จำแนกได้ดังนี้
1) การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค
2) ด้านการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการ และการแสวงหา ตลาดใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น ตลอดจนพัฒนาด้านโลจิสติกส์ และ Supply Chain รองรับการเชื่อมโยงประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
3) การสร้างความแข็งแกร่งให้ภาค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทั้ง ด้านปริมาณ และคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพด้านการศึกษาวิจัย การสร้างนวัตกรรม และการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
4) ดำรงฐานวัฒนธรรมและทุนทาง สังคมของล้านนาที่มีความหลากหลาย ทั้งเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงไป พร้อมๆ กัน
5) พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คุณภาพ ชีวิต และสร้างความเข้มแข็งของกระบวน การประชาสังคม
6) ดำรงฐานทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และการจัดการที่เป็นระบบ เกิดสมดุล
7) สร้างความมั่นคงในพื้นที่ปกติและพื้นที่ตามแนวชายแดน
ท่านผู้อ่านทุกท่าน เราเชี่ยวชาญงานและกิจกรรม ทางด้านการท่องเทียว เพื่อเปิดโลกทัศน์ เปิดการรับรู้ข้อมูลทุกด้าน ของทุกประเทศในอาเชียน เพื่อท่านเตรียมความพร้อมในอาชีพและธุรกิจของท่าน ทั้งด้านขยายตลาดสินค้าในประเทศอาเชียน,หาแหล่งวัตถุดิบ หรือแรงงานราคาพิเศษ,ไปลงทุนในพื้นที่พิเศษของประเทศเกิดใหม่ ฯลฯ ดิฉันพร้อมทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกท่าน ติดต่อเรียกใช้นะคะ เราพร้อมสำหรับการทำงานเป็นทีม เป็นกระบวนการ และเครือข่าย ประสิทธิภาพและรวดเร็วค่ะ
สิริวารี รำเพย
Exhibition GERMANY :เรียนรู้ความล้มเหลว