บริษัท เอเอส เวิลด์ เทรดดิ้งแอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด มีโอกาสร่วมคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาการค้าสินค้าแฟชั่น ณ นครจอร์แดน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 และมีโอกาสไปท่องเทียวหนึ่งในเจ็ดมหัศจรรย์โลก การเดินทางไปเมืองเปตรา (Petra) สร้างความตื่นเต้นให้กับสิริวารีเป็นอย่างมาก มันเต็มไปด้วยทะเลทราบ มองซ้ายมองขวาก็เป็นทราย เมื่อมาถึงเมืองเปตราซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของประเทศ สิ่งแรกที่มองเห็นคือมีแต่ภูเขาใหญ่ๆ ไม่เห็นนครโบราณเลย นักท่องเที่ยวรวมทั้งคณะเรา ต้องเดินเท้าเขาไปตามตรอกเล็กๆระหว่างหุบเขา บางครั้งก็มีรถม้าวิ่งสวนผ่านไปบ้าง มันได้บรรยากาศแบบภาพยนตร์อาหรับจริงๆ ยิ่งเดินเข้าไปบางช่วงทางเดินก็แคบลงบางช่วงก็กว้าง เป็นทางขดเคี้ยวแต่เดินทางสบายๆ สังเกตุดีๆ ข้างๆ ตรงด้านล่างของผาจะมีการขุดเซาะเป็นร่องยาวระหว่างทางเดินเข้าไปนครโบราณ ซึ่งคือระบบชลประทานในยุคนั้น โดยร่องใช้เพื่อส่งน้ำเข้าไปใช้ในนครโบราณ หรือ ยามที่ฝนตกลงมาน้ำก็จะไหลผ่านร่องเข้าไปได้
Petra ..เพตรา เมืองลึกลับโบราณอันน่าอัศจรรย์ เราเดินทางออกตั้งแต่เช้า สองข้างทางอย่างที่เห็น ท้องฟ้าสีฟ้า และทะเลทราย..บนเนินเขามีบ้านเรือนปลูกเป็นระยะ บ้างช่วงก็ไม่เห็น มีแต่ทะเลทรายและท้องฟ้าสีคราม...
นี้คือเส้นทางไป Petra...
ว่าด้วยประวัติของ Petraเมืองหินทรายสีชมพู(เหมือนปราสาทหนึ่งในนครวัด นครธม) ที่หลบซ่อนในหลืบเขากลางทะเลทรายสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 แห่งของโลก ปัจจุบันเพตรา เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย Byzantine ก่อนคริสตกาลถึง 400 ปี โดยพวก Nabateans ...
แวะเข้าห้องน้ำกับร้านจำหน่ายสินค้าก่อนเข้า Petra เสื้อผ้ามาจากตูรกี ราคาแพงมากค่ะ ส่วนใหญ่เป็นของใช้ที่ขึ้นชื่อเป็นพวกโคลนพอกตัว พอกหน้า และหมักผม แพ็กเก็ตจิ้งใช้ผ้าพื้นเมืองผสมผสานกับพลาสติกสวยงามค่ะ..
(ว่ากันเรื่องประวัติศาสตร์ต่อค่ะ)...วิธีการสร้างส่วนใหญ่จะขุดเจาะหน้าผาหินเข้าไปให้เป็นถ้ำหรืออาคารต่างๆ หินที่เจาะออกมา ก็เอามาสร้างเสริมเป็นอาคารภายนอกได้อีก ไม่ได้สูญเสียแรงหรือวัสดุไปเปล่าๆ การก่อสร้างมีความสวยงามละเอียดอ่อน ทั้งสง่างามและอ่อนช้อยจากหน้าผาหินอันแข็งแกร่งใหญ่โตนี้ จนไม่น่าที่มนุษย์จะทำได้ และหน้าผานี้ยังถือเป็นปราการธรรมชาติอย่างวิเศษ ที่คอยปกป้องเมืองจากศัตรูได้อย่างดี เพราะที่นี่นับเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่งเมืองหนึ่ง ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในขณะนั้น เพราะอยู่บนเส้นทางค้าขายหลักในสมัยนั้น ด้วยประชากรประมาณ 10,000-20,000 คน
ชัยโย...ถึงแล้ว ...ใช้เวลาในการเดินทางเกือบ 3 ชม.บนรถก็สนุกสนาน การนำเทียวในครั้งนี้นอกจากเลขานุการเอกอัครราชฑูต(คุณต่อ) แล้วประกอบด้วยคณะสมาคมมิตรภาพจอร์แดนไทยจำนวนเกือบ 10 คนสนุกสนานกันค่ะ
แม้จ้าว!!!!!!!! มนุษย์สร้างทำได้อย่างไร?????? What ????
เพื่อน ๆ ต่างตกอยู่ในภาวะมึนงง ...และอึ้งรับประทานค่ะ...(เรามาว่ากันทางประวัติศาสตร์ต่อค่ะ).........แต่ภายหลังสงครามครูเสดสิ้นสุดลง (ประมาณปีค.ศ. 1200) เส้นทางค้าขายก็เปลี่ยนไป เมืองนี้จึงถูกลดความสำคัญลง และทิ้งร้างสาบสูญไปกว่า 700 ปี จึงได้มีนักสำรวจชาวสวิสมาค้นพบ และระบุในแผนที่อีกครั้งเมื่อปีค.ศ.1812 เพตรา เป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ อยู่ในหุบเขาทางตอนใต้ของ Dead Sea ในประเทศจอร์แดน
หัวใจของ Petra อยู่ที่นี้ค่ะ!!!! ปราสาทหินสีชมภุ่ค่ะ ...มันเป็นไปได้ หุ หุ เหมือนปราสาทนครวัดนครธม ที่มีปราสาทหนึ่งเป็นสีชมภู่ทั้งปราสาทค่ะ แต่ที่นี้ยิ่งใหญ่กว่า
ประวัติศาสตร์ต่อกันค่ะ!!!!!! ว่ากันด้วยการเดินทางไป Petra อย่างเป็นทางการค่ะ ..............
ต้องใช้เวลานั่งรถจากกรุงอัมมันมา 2-3 ชั่วโมง คำว่า"เพตรา"มีความหมายแปลว่า “หิน” ในภาษากรีก และถ้าคิดว่าเคยผ่านสายตาของคุณๆละก็ คงมาจากภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones and the Last Crusade ที่นำแสดงโดยแฮริสัน ฟอร์ด นั่นเอง ในฉากนั้น เขาถ่ายอาคาร Royal Treasury มาสมมติให้เป็น Holy Temple ที่ซ่อนจอกศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง นักท่องเที่ยวหลายๆคนที่เริ่มมาเที่ยวหลังจากดูหนังเรื่องนี้ ก็เพราะต้องการมาเห็นของจริงที่นี่อยากไปเทียวติดต่อดิฉันได้นะค่ะ ยินดีเสมอสำหรับเพื่อน ๆ ยินดีแนะการท่องเทียวที่จอร์แดน และจะแนะนำเพื่อน ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่อยู่ที่โน้มเพื่อทุกท่านจะเสียค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก ติดต่อผ่านที่นี้หรือ email:smotthailand@gmail.com โทรศัพท์ 081 1028381ขอรีวิวภาพสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันค่ะ
เสื้อขาวเพื่อนผู้ประกอบการที่ร่วมคณะค่ะ มีจิตใจงามน่าดู๊
Exhibition GERMANY :เรียนรู้ความล้มเหลว