เมื่อเดือนมากราคม 2568 อาจารย์สิริวารี รำเพย หนึ่งในคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาขายสินค้าแฟชั่น ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรก แต่อาศัยการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าผ้าฝ้ายไทยไปญีปุ่น
คนญี่ปุ่นเป็นคนต้องการรายละเอียดของสินค้า และกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเตรียมตัว อาจารย์เรียนรู้จ้างผู้เชียวชาญมาให้ความรู้และประสบการณ์ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ด้วยความเข้าใจทางวัฒนธรรมและกฎหมายของแต่ละประเทศ และความรู้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นความรู้ที่พัฒนาตกผลึกเป็นองค์ความรู้ด้านการค้ากับญี่ปุ่น
อาจารย์สิริวารี เตรียมการเป็นอย่างดีและได้รับออร์เดอร์ และญี่ปุ่นเมื่อซื้อแล้วจะซื้ออย่างสม่ำเสมอ และหากผู้ประกอบการไทยสนใจที่จะค้าขายกับญีปุ่น ท่านสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าและหากต้องการที่ปรึกษาที่เชียวชาญ. ในการค้าต่างประเทศมาจากประสบการณ์ที่ยาวนานในการทำธุรกิจกับประเทศต่างๆ ความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งในเรื่องของการซื้อขายระหว่างประเทศและมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง การดำเนินธุรกิจกับตลาดต่างประเทศต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้งในแวดวงทางธุรกิจและศักยภาพในการทำงานร่วมกับบริษัทและผู้ประกอบการต่างชาติ และความชำนาญของฉันในการค้าต่างประเทศได้รับการยอมรับจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทั่วโลก ซึ่งประเด็นข้างต้นนี้อาจารย์สิริวารี และทีมสามารถช่วยทุกท่านได้ด้วยการช่วยท่านเตรียมตัว พร้อมช่วยทำแผนและวางกลยุทธ์การทำงานอย่างมีเป้าหมาย
และทุนที่จำกัด หรือเกือบไม่มี. แต่ความฝันและโอกาส เป็นความท้าทาย การเตรียมการ การมีเป้าหมาย แผนและกลยุทธ์เป็นสิ่งจำเป็นต้องมี มากกว่าข้อจำกัด
ฉนั้นโอกาสที่จะทำให้ล้มเหลวนั้นมีมาก พยายามไม่ให้เกิดขึ้น และสิ่งที่ต้องเตรียมเป็นอย่างมาก....คือรู้จักเขา วิธีคิดและLife Style ของกลุ่มที่เราจะไปพบ ...ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเตรียมจากภายในของตัวเรา (หมายถึงเตรียมตัวเอง)และรู้จักความเป็นเขาให้มากที่สุด รู้การคิด วิธีคิดและความเป็นไปของเขา....เตรียมตัวเราเอง....และหลักการ การเจรจาต่อรองก็ต้องนำมาใช้....เพื่อให้เกิดความประทับใจในครั้งแรกให้ได้.....
Mrs..Fumio Yomamoto คนญี่ปุ่นที่เข้ามาพูดคุย โดยไม่บอกเราว่าต้องการผ้าชิ้นไหนเป็นพิเศษ ในครั้งแรก...เราไม่ชิงพูด เพื่อปิดการขาย แต่อาจารย์สิริวารี จะพูดเมื่อลูกค้าต้องการรู้ พร้อมทั้งเรื่องราว และวิธีการทำให้ออกเป้นชิ้นงานที่เขาสนใจ....ห้ามโดยเด็ดขาด....ที่จะพยายามพูดในสิ่งที่ลูกค้าไม่ได้ถาม และสิ่งสำคัญกว่านั้นที่เราอาจไม่รู้เท่าทันก็คือ ทัศนคติต่าง ๆ ของเรา ต่อกระบวนการทำงาน ต้องเป็นทัศนคติทีดี แสดงออกไปสู่ลูกค้าอย่างชัดเจนเสมอ ทั้งในการกระทำและคำพูดต่างๆ ที่ปฏิสัมพันธ์
อาจารย์สิริวารีกล่าวว่า ในการเจรจาการค้าหรือพูดคุยทางการค้า สมาธิในการเจรจา โฟกัสไปที่มิตรภาพ เพื่อน ความภูมิใจในตัวสินค้าที่นำเสนอ และพร้อมให้ตรวจสอบ .และไม่โฟกัส ให้ขายได้ในทันที (แต่ถ้าขายได้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ )และที่เราเห็น ๆ การพูดคุย เพื่อเกิดการขาย สิ่งที่ตามมา นั่นคือสาเหตุที่เรามักได้ยินในโทรทัศน์ประกาศว่า “พร้อมของแถมมูลค่า” หลายๆ บาท เพราะมันช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้นหากต้องซื้อสินค้าในราคาปกติจริงๆ การลดราคาอาจส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่การลดราคาแบบไม่มีเหตุผลบ่อยๆ อาจทำให้สินค้าและบริการของเราเสียราคาและยากที่จะกลับสู่ราคาที่ตั้งต้นได้ ซึ่งทางเลือกที่ดีกว่าลดราคาหากสินค้าของเราตั้งอยู่ในราคาที่สมเหตุสมผลแล้วคือการเพิ่มมูลค่าของสินค้าด้วยบริการเสริม เช่น บริการจัดส่ง หรือการเพิ่มของแถมที่น่าสนใจก็เป็นอีกวิธีที่เลือกทำได้ (ซึ่งหลายครั้งเราต้องแปลกใจที่คำว่าน่าสนใจ บางทีก็ไม่ได้หมายถึงของแถมที่เข้ากันกับสินค้าด้วยซ้ำ)
และไม่อยากให้พบกันครั้งแรก เป็นการซื้อขายลดแลกแจกแถม และครั้งต่อ ๆ ไป ก็จะเป็นเช่นนั้น อำนาจต่อรองในการค้าแทบหมดไป...
การต่อราคา....
คนญี่ปุ่นไม่แตกต่างกับคนเชื้อชาติใด ๆ ในโลกนี้ ในการซ์้อขายสินค้า ในมุมของงานบริการหรืองานขาย เราอาจต้องเจอกับลูกค้าชอบต่อราคา ซึ่งถ้ามีการต่อราคาขึ้นมาจริงๆ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิริวารีจะกล่าวสั้น ๆ ขอให้เกิดการซื้อขายจริง ๆ แล้วคุยกันถึงเรื่องราคา.....เพราะราคามีหลายรูปแบบ...หรือบ้างครั้ง ใช้เกณฑ์ที่ว่า “บริการเสริมที่ดีทำให้ลูกค้าเปลี่ยนจากรู้สึกเฉยๆ เป็นรู้สึกดี ไม่ใช่เปลี่ยนจากรู้สึกแย่ เป็นรู้สึกเฉยๆ” พิจารณาดูว่าผลลัพธ์จากการเสริมมูลค่า (ด้วยการลดราคาให้ตลอดหรือเฉพาะครั้งนี้) ในครั้งนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าเมื่อไรการทำถึงขนาดกลับไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าสักเท่าไร การทำให้ลูกค้าพึงพอใจในครั้งนี้อาจเป็นเราเท่านั้นที่คิดไปเอง
"Mr,Fumio Yamamoto และเจ้าหน้าที่ของเขา"
อาจาย์สิริวารี เล่าว่าการพบกันครั้งแรกกํบ Mr.Fumio Yamamoto อาจารย์รับรู้ได้ถึงความต้องการ แม้ทางเขาพยายามปิดมันไว้ แต่สังเกตุจากการตั้งคำถาม....การขอตัวอย่างผ้า...และในการพูดคุย เขารู้ตัวสินค้าเป็นอย่างดี ....นอกจากเรื่องตัวสินค้า แล้วเรายังพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น เรื่องของเมืองไทย และฉันก็พยายามพูดถึงโอซาก้า....ในประวัติศาสตร์(ที่แอบทำการบ้านก่อนเดินทาง รวมทั้งนิสัยใจคอ) .....คุณยามาโมโต๊ะ ชอบใจใหญ่....
และก่อนจากกัน เขาถามว่าฉันอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปล่าว วันที่เขาจะเดินทางมากรุงเทพฯ .ประเด็นนีสำคัญมาก .....เขาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไป visit ที่บริษัท ....ดิฉันตอบว่า....ดิฉันอยู่ที่ประเทศกัมพูชา แต่ดิฉันจะบินกลับมาพบเขา เพราะเขาเป็นคนพิเศษของฉัน.....คุณยามาโมโต๊ะ หัวเราเสียงดังกับประโยคนี้ของดิฉัน.....และอาจารย์มั่นใจว่าการตัดสินใจซื้อขายน่าจากประโยคท้าย ๆ ของการเจรจาทางการค้าค่ะ....
"คณะคุณยามาโมโต๊ะ ล็อบบี้โรงแรมฟอร์จูน กทม.ประเทศไทย"
หลังกลับจากญี่ปุ่น เขาก็เป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะมาเยี่ยมที่บริษัท เราก็ยืนยันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะให้เขามา. ทั้ง ๆ ที่ในใจรู้สึกหวั่นไหว เพราะบริษัทเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ โชว์รูมสินค้า แต่ก็คิดเอาละ....เป็นงัยเป็นกัน จะเป็นไหร่ไป จะไม่ซื้อ..เพราะเป็นบริษัทเล็ก ๆ ก็ช่าง. .เราก็จัดทำความสะอาดบริษัทเล็ก ๆ ให้เรียบร้อยสะอาด เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมไทย ๆ
และก่อนการเดินทาง 2 วันก็ได้รับแจ้งว่า ไม่สามารถมาเยี่ยมที่บริษัท เนื่องจากเวลาที่จำกัดและไม่สะดวก.....ขอเชิญดิฉันไปพบที่โรงแรมที่พัก...
"คุยธุรกิจที่ล็อบบี้โรงแรมและปิดการขาย"
การพูดคุยเรื่องตัวสินค้า เป็นจริง เป็นจัง ขนาด สี และติดตามมาพร้อมการเจรจาต่อรองราคา ที่ต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับจำนวน.....ครั้งนี้ดิฉันถามจำนวน เพื่อดิฉันจะบอกราคาที่แท้จริง ... สุดท้าย คือ ราคาที่หน้าบริษัทลดลงมาแค่ 20 บาท จากราคาที่ดิฉันนำเสนอ ..และคนที่จะรับหน้าที่ต่อไปคือบริษัทเทรนที่รับจ้างทำการขนส่งสินค้าไปให้เขาที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน และฉันก็เรียกเงินมัดจำ 50% ก่อนการผลิต....เขาก็จ่ายทันที่ โดยจะส่งงานภายใน 15 วัน ...ตามนั้น.......
ดิฉันเดินทางไปส่งคณะลูกค้าของดิฉันที่สนามบินดอนเมืองค่ะ....และอีเมล์ไปอวยพรให้เขาเดินทางไปประเทศต่อไปอย่างสวัสดิภาพ และขอบคุณเขา...
เขาตอบอีเมล์หลังจากถึงญี่ปุ่นแล้ว เขาประทับใจและหวังว่าจะดิวกับดิฉันยาว ๆ เจ้าหน้าที่ต่างประเทศยิ้มน้อยยิ้มใหญ่....
เราก็เริ่มกระบวนการทำงานอย่างเต็มที...และมาปิดลงด้วย ทางญี่ปุ่นต้องการให้ติดแท็ปแบนด์สินค้าของเรา ....โอ้ แม่จ้าว น้ำใจสุดแสนงามเหลือเกิ๊น มีโอกาสให้แบนด์ของคนไทยมีโอกาสไปอยู่บนห้างที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น...ดิฉันจดทุกคำสั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา
อาจารย์ผลิตส่งก่อนกำหนด 3 วันและเมื่อประสานไปบริษัทที่ต้องมารับสินค้า ปรากฏว่าไม่สะดวกที่จะมารับสินค้า ดิฉันไม่รอช้าสอบถามข้อติดขัดของเขา และยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ และส่งของตามที่ดิฉันกำหนด....และแจ้งอีเมล์พร้อมรูปถ่ายไปให้ทางญี่ปุ่นทราบว่างานของดิฉันเรียบร้อยแล้วนะ พร้อมกับขอบคุณ อำนวยอวยพรให้เขาขายดี ๆ และหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกันอย่างยาวนาน.......พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าดิฉันจะเดินทางไปเยี่ยมเขาในเดือนกรกฏาคม 2558 เขาก็ยินดีมาพบ เพื่อพูดคุยกัน...มิตรภาพและเพื่อนเป็นสำคัญมากจริง ๆ ของการค้าขาย ทุกท่านสามารถทำได้ ถ้าท่านได้เรียนรู้ และเตรียมตัว และหากท่านต้องการข้อแนะนำจากดิฉัน อีเมล์ smotthailand@gmail.com หรือจะให้ดิฉันช่วยในเรื่องการ Exhibition and Matching ดิฉันยินดีค่ะ ทั้งในรูปแบบฟรี ๆ หรือว่าจ้างให้ทำงานการตลาดในประเทศต่าง ๆ ก็ไม่ว่ากันค่ะ...
เรียนพี่น้องผู้ประกอบการ ท่านต้องมีความฝัน มีเป้าหมายและคิดเสมอว่า เราสามารถเติบโตได้ และท่านทุกคนสามารถขอคำปรึกษาอาจารย์สิริวารี และทีมงานได้ สามารถสอบถามผ่านโพสต์นี้หรืออีเมล์ smotthailand@gmail.com
Exhibition GERMANY :เรียนรู้ความล้มเหลว