เมื่อบริษัท เอเอส เวิลด์ เทรดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง โดย คุณสิริวารี รำเพย กรรมการผู้จัดการ มีโอกาสเข้าพูดคุยกับ คุณสุภัฒ สงวนดีกุล ฑูตพาณิชย์ ประจำนครโอซาก้า ที่กรมการค้าระหว่างประเทศ และนำมาซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เข้าสู่โครงการ " คณะผู้แทนการค้าสินค้าแฟชั่นไปเจรจาการค้าในประเทศญี่ปุ่น(นครโอซาก้า)" ระหว่างวันที่ ๒๔-๓๑ มกราคม ๒๕๕๘ บริษัทต้องขอขอบคุณกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ให้โอกาส ในการทำงานในครั้งนี้.....


ต้องขอขอบคุณฑูตพาณิชย์ประจำนครโอซาก้า ท่านเป็นหน่วยงานที่สิริวารี ชื่นชมมาก ส่งเอกสารข้อมูลรายละเอียดของการค้าการขาย ของนครโอซาก้ามาให้ตลอด ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้ก็นำมาจากสำนักงานฑูตพาณิชย์ ที่ส่งมาให้คุณผู้แทนฯ เพื่อการเตรียมตัวเพื่อเป็นคณะผู้แทนการเจรจาการค้า...เป็นเรื่องสำคัญมาก ....แม้ประสบการณ์สิริวารี จะเป็นผู้ทำงาน การค้าขายระหว่างประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่เป็นการค้าในประเทศ CLMV ยังไม่เป็นในประเทศ ASEAN+3 คือ ญี่ปุ่น ....ฉนั้นต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในการไป exhibition ในต่างประเทศ เพราะมันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง ต้องใช้เวลาวันนี้ไม่ว่าใครก็อยากทำธุรกิจส่งออก เพราะตลาดกว้างใหญ่ไพศาล มีให้เลือกหลายทำเล
แต่การทำธุรกิจส่งออก จำเป็นต้องไปสืบเสาะแสวงหาตลาดที่ต้องการ จะค้าขาย รวมถึงต้องมีการนำสินค้าไปแนะนำต่อผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ในรูปแบบการออกงานแสงสินค้า ประกอบกับที่ ประเทศนี้ สินค้าของบริษัท จากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว กระแสธรรมชาติ เสื้อผ้าทางด้านใยธรรมชาติเป็นที่ต้องการของตลาดมาก
การออกงานแสดงสินค้าอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก (ถ้ามีเงิน) แต่เรื่องง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปากนี่แหละ ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนตกม้าตายมาแล้ว .....เหมือนประสบการณ์ที่ประเทศเยอรมัน เป็นต้น


ผู้มีประสบการณ์กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการตัดสินใจจะไปออกงานแสดงสินค้า การบ้านที่ต้องทำทันทีคือการคัดเลือกสินค้าที่จะไปออกงาน และจัดเตรียมเอกสารที่จะใช้แจกในงานแสดงสินค้านั้นๆ
ครั้งหนึ่งผู้เขียนมีโอกาสไปร่วมงาน การเตรียมตัวออกงานแสดงสินค้าที่กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเชิญผู้ประกอบการรายใหม่มาอบรมก่อนถึงวันเดินทางไปแสดงสินค้าว่าจะต้อง จัดเตรียมอะไรบ้าง อาทิ ปริมาณของสินค้าที่อนุญาตให้ขนไปร่วมงาน การลำเลียงสินค้าขึ้นเครื่อง การจัดเก็บสินค้าเมื่อ ถึงปลายทาง การขนสินค้าเข้าสู่บริเวณงาน โดยเชิญผู้ส่งออกที่มีประสบการณ์มาให้คำแนะนำ


ปรากฏว่าขณะที่ผู้ส่งออกอธิบายรายละเอียดนั้น มีผู้นั่งฟังฟังในห้องบรร ยายประปราย ส่วนใหญ่ออกไปยืนคุยกันหน้าห้อง แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในห้องก็ฟังอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำเอาผู้บรรยายของขึ้น ต้องประกาศผ่านไมโครโฟนว่าให้สละเวลา ตั้งใจฟังกันหน่อย (ตัวผู้เขียนเอง ก็มีนิสัยเช่นนั้นต้องปรับปรุงนะค่ะ เจอเพื่อน หรือคู่ค้า ก็ต้องหลังเสร็จงานการประชุมไว้พูดคุยกันค่ะ)
เพราะเรื่องดังกล่าวอาจดูเหมือนไม่ สำคัญ แต่พอถึงวันเดินทางจะเกิดความโกลาหลวุ่นวาย เนื่องจากแต่ละคนไม่เข้าใจ ขั้นตอน ลืมนั่นลืมนี่ เสียเวลาโดยใช่เหตุ ทุลักทุเลไปจนถึงวันเปิดงานแสดงสินค้า ซึ่งผู้ส่งออกที่มีประสบการณ์บอกว่าผู้ส่งออกใหม่ๆมักทำพลาดในเรื่องแบบนี้ประจำ


ในการออกงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ บริษัทมีสินค้าเพียงไม่กี่ชนิดเพื่อป้องความยุ่งยาก .....ก็พยายามเลือกสินค้าแบบชนิด ขอออเดอนะ ...ถูกใจนะ.....ตลาดนั้นๆต้องการ และถ้าคุณสั่งออเดอฉัน คุณขายได้อย่างแน่นอน 555+ บริษัทเตรียมถ่ายรูปนางแบบ และแสดงสินค้าให้ดูดี ไม่ขนสินค้าไปจำนวนมาหรอกค่ะ สิ้นเปลื้องค่าใช้จ่าย แต่เอานางเอก และมั่นใจว่า


สิ่งที่บริษัท เอเอส เวิลด์ เทรดและมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เตรียมเป็นจำนวนมาก นั้นคือเอกสารประเภทแคตตาล็อก, โบชัวร์(เป็นภาษาอังกฤษจำนวน 500 ชุด), ประวัติบริษัท, Price Lists ที่แสดงราคาทั้งรวมค่าขนส่งค่าประกันและไม่รวม ในการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศปลายทาง.... บริษัทเตรียมการพูด และข้อมูลของเราเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีภาษาญี่ปุ่น เพราะทางโน้มเตรียมล่ามเพื่อการแปลและแนะนำไว้ให้......


บริษัท เอเอส เวิลด์ ฯ กังวลมาก คือ การรจัดเตรียมเอกสารการขาย ใบเสนอราคา เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ออกงานแสดงสินค้ามือใหม่พลาดกันมาเยอะ จากประสบการณ์ จึงทำให้ ไม่สามารถเจรจาปิดการขาย หรือให้ข้อมูล ที่ครบถ้วนกับลูกค้าได้ ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเจรจาหรือส่งข้อมูลตามหลัง โชคดีที่สมัยนี้มีอินเตอร์เน็ตช่วยในการสื่อสารข้ามประเทศ แต่ยังไงการปิดการขายได้ในทันทีย่อมดีกว่า ครั้งนี้ไม่พลาดแน่ ๆ (ขอบอกค่ะ)
บริษัทเอเอส เวิลด์ฯ เรื่องเอกสารก็เป็นเรื่องของการจัดเตรียมคนที่จะไปอยู่ประจำบูธ ไม่ไหวค่ะ ต้องจ่ายค่าเครื่องบินเพิ่มอีก บริษัทเล็ก ๆ อย่างเรายังไม่มีงบประมาณค่ะ ก็ต้องเป็นสิริวารี นี้ละค่ะ เพราะ การที่เจ้าของกิจการหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจไปอยู่ประจำบูธเองจะช่วยให้การซื้อขายหรือการเจรจาธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าการปล่อยให้พนักงานขายประจำบูธ ทำหน้าที่ขายและให้ข้อมูล เอาละค่ะ เพื่อน ๆ พร้อมสำหรับการเตรียมตัวเพิ่มแล้วหรือยังค่ะ อย่ากลัวที่จะไปค้าขายกับต่างประเทศค่ะ....


เรื่องประจำบูธเป็นเรื่องใหญ่มาก อย่ามอบหมายให้กับคนที่ไม่ใช่คนที่บริษัทไว้วางใจนะค่ะ บางบริษัท ไม่มีคนก็ไปมอบหมาย ให้คนที่ไม่มีความเข้าใจในธุรกิจหรือสินค้า เช่น บางรายไม่ทำอย่างนั้น เลือกเอาภรรยา ลูก หรือกิ๊กที่เป็นลูกน้องในบริษัทไปออกบูธ หวังว่าเสร็จงานจะได้เที่ยวต่อ ถือว่าจ่ายตั๋วเครื่องบินครั้งเดียวคุ้มค่า คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด ถ้าคนที่พาไปด้วยมีฝีมือในการค้าขาย กับลูกค้าต่างชาติ แต่กลายเป็นว่าภรรยาเป็นคนคุมบัญชีบริษัท ไม่มีทักษะการขาย ก็เสียโอกาสที่ควรจะได้รับจากการลงทุน พาลจะนำไปสู่การหมดกำลังใจหากไม่ได้ลูกค้าติด มือกลับบ้าน (เขาเรียกว่าเสียของค่ะ)..จบก่อนนะค่ะ และจะกลับมาเล่าอีกครั้งหลังจากกลับจากญี่ปุ่น รับรองออเดอเต็มมืออย่างแน่นอนค่ะ....


Exhibition GERMANY :เรียนรู้ความล้มเหลว

บริษัทเอเอส เวิลด์ เทรดดิ้งแอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด T&T