ร้านละหาน สะหวั่นนะเขต สปป.ลาว

สืบเนื่องจากการรวมตัวทางด้านเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็น“ประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน-AEC”ในปลายปีนี้ ทัวร์อาเชียนเวิลด์ จึงรวมการท่องเทียวและการหาคู่ค้าและเจาะตลาดทางการค้าไว้ด้วยกัน


ทริปเปิดโลกทัศน์อาเซียนบนเส้นทาง R12 ไทย-ลาว และการดูงานทางด้านผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาต-สีคราม ที่สะหวั่นนะเขตถูกบรรจุไว้ในทริป เพื่อเปิดโอกาส ให้ผู้ประกอบการทางด้านผ้าฝ้าย คุณสิริวารี รำเพย มีโอกาสพบคู่ค้า และแหล่งวัตถุทางด้านผ้าที่ราคาต่ำกว่าที่ประเทศไทย แม้จะรวมค่าขนส่งไว้แล้วก็ตามที


ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก ประวัติความเป็นมาของเมืองสะหวั่นะเขต ซึ่งมีประวัติยาวนาน เริ่มในสมัยขอมเรืองอำนาจ เมืองนี้มีชื่อว่า สุวรรณภูมิประเทศ เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ในปี พ.ศ. 2120 ท้าวหลวงและนางสิมได้อพยบผู้คนจากภาคเหนือลงมาตั้งหมู่บ้านชื่อว่าบ้านหลวงโพนสิม ห่างจากตัวเมืองปัจจุบันประมาณ 18 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกับไปพระธาตุอิงฮัง


...... ครั้นถึง พ.ศ. 2185 ท้าวสิมพลีบุตรชายได้พาชาวบ้านหลายสิบครอบครัวแยกออกไปตั้งเมืองใหม่เป็นชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขงประวัติการก่อตั้งเมืองสุวรรณเขตยังเกี่ยวพันกับการก่อตั้งจังหวัดมุกดาหารในฝั่งไทย เพราะชาวบ้านที่อพยพมาจากบ้านโพนสิมได้ข้ามไปตั้งบ้านเรือนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงแล้วก่อตั้งเมืองมุกดาหารขึ้น ในเขตตัวเมืองสุวรรณเขตในปัจจุบันแต่ก่อนเรียกกันว่า บ้านท่าแฮ่ (ท่าแร่) เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุและทองคำ ซึ่งชื่อของแขวงสุวรรณเขต มาจากคำว่าสุวรรณ ที่แปลว่าทอง รวมกับเขตต ที่แปลว่าเขตแดน จึงหมายถึงดินแดนแห่งทองคำ แต่ผู้ปกครองแขวงสุวรรณเขตสมัยฝรั่งเศสปกครองได้เลือกเอาคำศัพท์ว่าสวรรค์ณะ (สะหวันนะ) ซึ่งแปลว่าดินแดนแห่งสวรรค์แทน จึงได้ชื่อว่าสวรรค์ณเขต (สะหวันนะเขต) มาแต่บัดนั้น


ในปัจจุบันคนลาวไม่เรียกแขวงสวรรค์ณเขตว่าสุวรรณเขตอีกแล้ว มีแค่เอกสารเก่าของไทยที่เรียกชื่อเมืองนี้ เอกสารราชการไทยสมัยใหม่ก็เรียกสะหวันนะเขตจึงน่าจะยกเลิกการเรียกชื่อแขวงนี้ว่าสุวรรณเขตในวิกิพีเดียเพื่อลดการเข้าใจกำกวมสับสน) เมื่อลาวตกเป็นประเทศอาณานิคม ฝรั่งเศสได้สร้างเมืองสุวรรณเขตให้เป็นศูนย์กลางทางการปกคองที่สำคัญแห่งหนึ่งของลาว


.. การเดินทางจากจังหวัดมุกดาหาร ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็จะถึงแขวงสุวรรณเขตหรือมาโดยรถโดยสารประจำทาง ที่หมอชิต 2 มีรถโดยสารไปจังหวัดมุกดาหารทุกวัน โทรศัพท์ 0 2936 2841-8, 0 2936 2852-66
เมื่อมาถึงสถานีขนส่ง แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ ก็จะถึงเมืองแขวงสุวรรณเขต


.......ทำความรู้จักผ้าย้อมคราม คือผ้าที่ทอด้วยมือ หรือทอด้วยเครื่องจักรที่ย้อมสีด้วยครามธรรมชาติ มีเฉดสีฟ้าถึงสีน้ำเงินเข้ม ผ้าย้อมครามนิยมใช้กันแพร่หลายในหลายเขตพื้นที่ของโลก โดยเฉพาะเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย ลาวและประเทศไทย เนื่องจากมีองค์ความรู้ในการปลูกต้นครามและการย้อมคราม ผ้าย้อมครามในประเทศไทยมีมากในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครซึ่งมักจะย้อมครามที่เส้นไหม เส้นฝ้ายก่อนนำไปทอด้วยมือให้เป็นผืน บ้างมัดหมี่ให้เป็นลวดลายก่อนแล้วจึงนำไปย้อมและทอมือด้วยกี่พื้นบ้าน เกิดเป็นผ้ามัดหมี่ทอมือย้อมครามที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ในปัจจุบันมีการผสมเทคนิคใหม่ๆ เช่นการมัดย้อม การเขียนเทียน บาติก เพื่อให้ได้ลวดลายและสีสันที่ร่วมสมัย



ร้านละหาน สะหวั่นนะเขต เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายที่ใหญ่ที่สุดของแขวงนี้ ลุงบุญมา ในฐานะเจ้าของร้านละหานผ้าฝ้าย เล่าให้เราฟังว่า เดิมทีนั้นทำที่บ้านขายที่บ้าน ทำเองทั้งหมดครบวงจร มีชาวญี่ปุ่นมาเทียวแล้วชอบผ้าย้อมคราม ซื้อไปใช้เองและทดลองขาย ขายดีก็สั่งซื้อจำนวนมากขึ้น กลายเป็นแบนด์ดังของญี่ปุ่น ก็จ้างร้านละหานเป็นผู้ผลิตทั้งกระบวนการ แต่เป็นผู้กำหนดลาย และแบบ ต่อคำถามที่ว่า ทำไม ไม่ผลิตเอง สร้างแบนด์และจำหน่ายเอง ลุงบอกว่า เรารู้น้อย เห็นน้อย ก็ทำได้แค่รู้แค่เห็น ไม่เหมือนกับเขาที่รู้ และเห็นมากกว่า ทำเอาฉันนิ่งไปเช่นกันกับคำตอบ




เท่าที่สำรวจตรวจสอบ ที่ร้านละหาน เครื่องไม้เครื่องมือตั้งแต่เริ่มต้นผลิต การทอ การย้อม การตัด การเย็บ การรีดเพื่อพร้อมส่งและส่วนที่เหลือจำหน่าย แต่ลุงเล่าว่า ขณะนี้ที่ร้านไม่ผลิตทั้งหมด เช่นรับซื้อผ้าฝ้าย ย้อมสีครามแล้วจึงแจกจ่ายงานให้บ้านใกล้เรือนเครียงหรือชุมชน นำไปทอ เมื่อได้ผ้าเป็นชิ้น ร้านละหานก็นำมาตัด แล้วให้ชาวบ้านเย็บมาส่ง คือไม่ให้คนอื่นรู้กระบวนการทั้งหมด รู้แต่เพียงบ้างส่วนเท่านั้น
ใครบอกว่าคนลาวทำธุรกิจไม่เป็น คงไม่ใช่แล้วละค่ะท่าน….


......การเดินทางไปท่องเทียวและดูงานพ่วงไปด้วย เป็นการลงทุนที่คุมค่า ก่อให้เกิดประโยชน์ และในครั้งนี้ สิริวารีก็ได้เพื่อนคู่ค้าที่ลาว ได้วัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าฝ้ายของดิฉัน นั้นเป็นประโยชน์ของการดูงาน ลดความเสี่ยงในการติดต่อการค้ากับตลาดเป้าหมาย และทำให้สิริวารีได้เห็นลวดลายสีสันแบบใหม่ ๆ ของวงการผ้าฝ้ายของญี่ปุ่น และถ้าท่านสนใจหรือต้องการให้เราจัดไปดูงาน ไม่ว่าเป็นธุรกิจด้านใด ติดต่อเรานะค่ะ เรายินดีเพราะเรามีเครือข่ายทั้งในอาเชียนและภูมิภาคอื่น ๆ ติดต่อเบอร์ 081 1028381,080 2653674 ขอบคุณค่ะ
Email:smotthailand@gmail.com
Exhibition GERMANY :เรียนรู้ความล้มเหลว

บริษัทเอเอส เวิลด์ เทรดดิ้งแอนด์มาเก็ตติ้ง จำกัด T&T