การเตรียมความพร้อมก่อนไปเทียว

การเตรียมความพร้อมไปเที่ยว มีอะไรบ้าง...

เพื่อน ๆ หลาย ๆ คน คิดรักอยากเป็นนักท่องเทียวกันส์   แต่เมื่อถึงคราวจะไปเทียวกันจริง ๆ  โอ๊ะโอ๋ กังวลกันเสียมากมาย ต้องโทรศัพท์บ้าง เฟสบ้าง หรือ ไลน์บ้าง ถามป้านกกันจัง ป้านกค่ะ … ป้านกขา… พี่นกจร๋าพี่นกจร้า….. หรือหนูนก  …..แล้วก็ถามโน้มนี้นั้น บลา ๆ  ๆมากมาย ก่ายกอง ถึงการเตรียมตัว.....

  คุณ ๆ เจ้าขา   ขออนุญาตเรียกตัวเองว่า ป้านกนะค่ะ ไม่ว่าท่านจะวัยใด     ขอแนะนำ การเตรียมความพร้อมในการไปเที่ยวมีอะไรบ้า'ง เรียงลำดับตามความสำคัญ กันนะค่ะ   พี่ ๆ น้อง ๆ ป้า ๆ หลาน ๆ    เราต้องคิดตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ   เช่น 

1. แผนการ

- เราอยากไปเที่ยวที่ไหน ไปดูอะไร กับใคร  ยังไง พักที่ไหน กินอะไร

เช่น

เที่ยวที่ไหน = ไปลาว ไปเวียดนาม, กำหนดเส้นทาง เป้าหมาย และความชัดเจนในเป้าหมาย เวลาในการเดินทาง  หรือจะไปท่องเทียวกับทัวร์ หรืออย่างไร?

ไปดูอะไร  ทำอะไร อยากรู้เรื่องอะไร  หรือเน้นที่การไปเยือนถิ่นต่างๆ ดูชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน หมู่บ้าน ดูศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น หรืออะไรก็ได้ที่เป็นธรรมชาติ

ไปกับใคร = กับแฟน และแฟนเพื่อน (5555), หรือใครก็ได้ ที่มี แนวร่วมที่จะร่วมความคิดเดียวกันกับเราในการเดินทางครั้งนี้

การเดินทางไปอย่างไร = ไปกันเองเอารถตู้ไปพาหนะในการเดินทางต้องชัดเจน   หรือไปกับป้านก  (ถ้าไปกับป้านก ก็ต้องเลือกด้วย ว่า วันเวลาที่เราสะดวกไปนั้น ป้านกจัดทัวร์รูปแบบใด เพราะป้านกจัดหลายรูปแบบค่ะ)

พักที่ไหน=กางเต็นท์นอน หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน, ถ้าต้องจองล่วงหน้าก็ต้องจองไว้ก่อนยิ่งดี  (ถ้าไปกับป้านกประเด็นนี้ตกไปค่ะ ทัวร์ป้านก 3ดาว+++)

กินอะไร=ข้าวเหนียวหมูปิ๊ง หรือทำกับข้าวกินเองเมนูไข่ต้ม ทำเป็นรายการอาหารที่เราอยากจะกินไว้เลยก็ดี แล้วเอาอุปกรณ์ไปทำเองก็ได้ (ถ้าไปกับป้านกประเด็นนี้ตกไปอีกค่ะ เพราะป้านกสรรค์หา ของที่ป้านกชอบ เฮ้ย ไม่ใช่ที่สะอาด มีคุณภาพ ถูกต้องโภชนาการค่ะให้เพื่อนและลูกทัวร์ของป้านกคร้า)

ตั้งเป็นเป้าหมายหลัก และเป้าหมายรอง  แล้วก็มีเวลาสำหรับการเตรียมการณ์ ฯลฯ เขียนเป็นแผนการออกมาชัดเจนค่ะ

2. เวลา

- เตรียมตัวลางาน เตรียมวันหยุด อย่าให้มันขัดกับแผนการ เช่นแผนไปเที่ยว 5 วัน มีวันลา 3 วัน นอกนั้นก็ขาดงาน อันนี้ไม่ได้ ต้องให้มันเมตกันกับแผน

3. ค่าใช้จ่าย     ประเด็นนี้สำคัญมากค่ะ ต้องวางแผนให้รอบคอบค่ะ  เมื่อเราซื้อทัวร์สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเราแล้ว  ค่าใช้จ่ายก็ต้องสมน้ำสมเนื้อ  เช่น  เราจะไปขยายธุรกิจ(หาตลาด)  เราก็ต้องไปรูปแบบธุรกิจ ค่าใช้ก็จะสูงนิดหนึ่งค่ะ เป็นต้น

4. สัมภาระ 

- อุปกรณ์ต่างๆ เปล ถุงนอน เสื้อกันหนาว ไฟฉาย หมวก ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้า  แปลงสีฟัน แชมพู สบู่ ยาสีฟัน  (สมัยก่อน ถ้าเราไปแบบนักศึกษาเราต้องเตรียมค่ะ แต่เมื่อเราโตแล้วเราพักโรงแรมดี ๆ  สัมภาระเหล่านี้มีความจำเป็นน้อย  เพราะเขาเตรียมให้เราหมดค่ะ

5. เสบียง 

- อุปกรณ์ยังชีพเบื้องต้น ที่ให้เราดำรงชีพอยู่ได้ หม้อสนาม กระติกน้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง (อาจต้องมีบ้าง เพราะอาหารที่ป้านกเลือกสรรแล้วอาจไม่ถูกปากค่ะ)

6. ข้อมูล 

- แผนที่ และข้อมูล รีวิว สถานที่เป้าหมายที่เราจะไป ข้อนี้ต้องทำการบ้านเยอะหน่อย เราจะต้องไล่อ่านรีวิว สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะไป เอาให้ละเอียดยิบ เป็นไกด์ได้เลยยิ่งดี  ประเด็นนี้สำคัญมาก   เพราะแม้แต่ละทัวร์มีไกด์เพื่อบรรยาย   แต่ถ้าเรามีข้อมูลเป็นพื้นไปด้วยก็จะยิ่งทำให้สนุกมากยิ่งขึ้นคะ

7. สภาพร่างกาย + จิตใจ

- แน่นอนว่าร่างกายและจิตใจต้องพร้อม อ่านมาถึงข้อนี้แล้วย้อนกลับไปดูข้อ 2 ถ้าเราไม่มีเวลาในตอนนี้ เราเก็บเงินในข้อ 3 แล้วพอวันหนึ่งเราแก่ตัวขึ้น   และถ้าเราต้องการท่องเทียวรูปแบบ เปิดโลกทัศน์ทั้งในอาเชียน หรือในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก  เราต้องเตรียมความพร้อมให้มาก  เพราะมันคือ ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงค่ะ

เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม ให้เบิกบาน สำหรับการท่องเทียว พบเห็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งเพื่อน ๆ และสิ่งแวดล้อมค่ะ

 8. แนวร่วม 

- เพื่อน  ๆ หรือบุคคลที่มีความต้องการ การท่องเทียวเหมือน ๆ กับเราค่ะ

9. พาหนะ  ต้องสอบถามคณะทัวร์ให้ชัดเจน เพื่อเราจะได้เตรียมการแต่งกายให้สอดคล้องกับพาหนะค่ะ

10. มนุษย์สัมพันธ์

 - ถ้าจะไปคนเดียว ไปหาเพื่อนเอาข้างหน้าก็ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์กับคนให้เป็น

- ถ้าไปกับเพื่อนกับครอบครัว ก็เข้ากับเพื่อนกับฝูงด้วย ไม่ใช่จะปลีกวิเวกอยู่คนเดียว

11. กล้องถ่ายรูป

- เอาไว้บันทึกเหตุการณ์ หรือความทรงจำนั้นไว้ ปัจจุบันกล้องราคาถูกลง ซื้อไว้ใช้ซักตัวในราคาที่พอซื้อได้ แล้วเอามาถ่ายรูปกัน

ประเภทของการท่องเที่ยว

1. backpacking - หมายถึงการ แบกอุปกรณ์ในการดำรงชีพต่างๆ แล้วก็เดินเข้าไปในเขตพื้นที่ที่ปราศจาก อาหารการกิน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ซึ่งส่วนมากก็อยู่ในเขตอุทยานนั่นแหละเพียงแต่ว่า จะเป็นเขตที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือที่ในอเมริกาเรียกว่า wilderness area การเดินทางในเขต wilderness area ก็จะมี trail ซึ่งมีคนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปตามแผนที่ที่มีไว้ให้ เพราะฉะนั้น backpacking ในอเมริกา ก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้คนนำทาง ซึงต่างจากบ้านเรา ที่ถ้าเขินไม่มีคนนำ คงหลงทางเป็นแน่ นอกจากนี้ก็มีเรื่องอาหารการกินที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ของฝรั่งมีอุปกรณ์การกินน้อยมาก หม้อ 1 ใบ พร้อมอาหารประเภทที่ทำง่ายที่สุด ไม่เรื่องมาก เหมือนคนไทย ที่เขาป่าที่ แทบจะขนครัวย่อมๆเขาป่าไปที่เดียว ทั้งหม้อ ทั้งกระทะ เต็มไปหมด นอกจากนั้นก็คงเหมือนๆกันแหละคร้า

- backpacking แบบฝรั่งจริงๆ ซึ่งก็มีข้อดีก็คือ ระบบการจัดการของเขาดีกว่า คือ สามารถทำให้เราไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นมาก ลูกหาบก็ไม่มี แต่ข้อเสียก็คือ ฝรั่งมีความมุ่งมันมากเกินไป คือเขาจะกำหนด จุดเป้าหมายก่อนการเดินทาง พร้อมกำหนด เวลาชัดเจนว่าจะต้องไปถึงให้ได้ตามแผนการที่วางไว้ซึ่งบางทีมันทำให้เราเหนื่อย จนหมดสนุกไปเลย สรุปแบบไทยๆน่าจะ work กว่า 

2. car camping - เราขนเตา picnic ทำกับข้าวกันสนุกสนานนั้น เราเรียก car camping ครับ 

3. traveller - ส่วนที่แบกเป้มาเที่ยว แถวข้าวสาร นั้นเราไม่เรียก backpacker นะค่ะ  พวกนี้ส่วนมากน่าจะเป็นแค่ traveller เท่านั้นค่ะ เราขับรถไปพักนอนรีสอร์ตนี่ก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน

สี่งสำคัญที่สุด

*** ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวแบบไหน ต้องอย่าส่งเสียงดังน่ารำคาญ และต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น ป้านกก็เข้าใจแหล่ะว่าคนมาเที่ยวก็คงอยากสนุก แต่ว่าคนเข้าป่าบางทีก็ต้องความสงบนะค่ะ รวมทั้งสัตว์ป่าด้วยไม่เกรงใจคนก็เกรงใจสัตว์มันบ้าง  เอิ๊ก เอิ๊ก  สงสัยจะถูกฝังกันมาตั้งแต่เป็นลูกเสือหรือไงไม่ทราบได้ ไปเที่ยวป่า ทำเหมือนไปค่ายลูกเสือ ทุกทีต้องมี campfire หนักเข้า เปิด วงเต้นรำ ร้องเพลงเล่นกีต้าร์มันซะเลย 

หรือเพื่อนๆมีอะไรจะเพิ่มเติม สามารถแนะนำเข้ามาได้นะค่ะ